ป้าอ่านพบมีการพูดถึงการปลูกต้นไม้ตามจันทรคติ เลยไปค้น หาอ่านดูได้ความรู้ดีเหมือนกัน ป้าเป็นพวกมือร้อนปลูกอะไรไม่ค่อยจะงามวิธีการแบบนี้น่าจะดี แบบคำโบราณบอกว่า "ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ด้วยคาถา" ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ลองอ่านดูนะคะ
เขาบอกว่าการปลูกต้นไม้ตามจันทรคติ ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า moon planting หรือ Lunar planting เขาถือกันว่าการโคจรของพระจันทร์ มีผลต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกมนุษย์ ตั้งแต่เรื่องน้ำขึ้น น้ำลง เกี่ยวพันไปถึงระบบของเหลวในร่างกายของสิ่งมีชีวิตด้วย (พวกที่แปลงร่างเป็นหมาป่าคืนวันเพ็ญ ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกันมั้ยนะคะ) เขาเชื่อกันว่า
วันข้างขึ้น คือ พระจันทร์เริ่มจะเต็มดวง เป็นช่วงที่โลกหายใจออก ส่งผลให้น้ำเลี้ยงไปเลี้ยงที่ยอดเยอะ ต้นไม้ที่ปลูกกินยอด ไม่ผลก็จะเจริญเติบโต
วันข้างแรม คือ เดือนมืดนั่นแหละค่ะ เป็นช่วงที่โลกหายใจเข้า น้ำเลี้ยงพืชจะไปเลี้ยงที่ราก สถานการณ์แบบนี้ให้ปลูกพวกพวกที่กินหัว กินราก ที่อยู่ใต้ดิน พวกนี้จะเจริญเติบโตให้ผลผลิตดี
ชาวสวนโบราณโดยเฉพาะชาวออสเตรเลีย นิยมใช้ช่วงเวลาโคจรของพระจันทร์นี้เป็นตัวกำหนดระยะเวลาปลูกพืชผัก ซึ่งถ้าเราปลูกให้ตรง แล้วถูกต้องก็จะได้ผลผลิตดี เพราะออสเตรเลียเป็นประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก เพราะดินแถบชายฝั่งก็จะไอเค็มจากทะเล ลึกเข้าไปในทวีปออสเตรเลียก็แห้งแล้ง
ป้า copy รายละเอียดมาให้อ่านนะคะ น่าสนใจดี ใครจะนำไปทดลองก็ไม่เสียหาย คืนนี้เป็นคืน Supper Moon ด้วย ป้าจะต้องหาพันธุ์ไม้ไปลองปลูกที่สวนพชรบ้าง
การที่ดวงจันทร์ใช้เวลา 28 วัน ในการโคจรรอบโลกครบหนึ่งรอบ จึงจัดตารางการทำสวนตามระยะต่างๆ ของดวงจันทร์ ดังนี้
ระยะข้างขึ้นอ่อนๆ และขึ้น 8 ค่ำ (ตรงกับวันที่ 1-7 และ 8-14 ของวงโคจรหนึ่งรอบ) ให้เพาะเมล็ดหรือปลูกพืชที่เติบโตเหนือผิวดินประเภทไม้ล้มลุก ไม้ยืนต้น และผัก เช่น หน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำปลี ขึ้นฉ่าย ผักโขม มะเขือเทศ
ระยะวันเพ็ญ 15 ค่ำ (ตรงกับวันที่ 15-21 ของวงโคจรหนึ่งรอบ) ให้เพาะเมล็ดหรือปลูกพืชที่เติบโตใต้ผิวดินหรือจะเติบโต ให้ผลผลิตในปีต่อไป นอกจากนี้ก็เป็นผักประเภทหัว เช่น มันฝรั่ง หัวบีท (beetroot) หอมหัวใหญ่ และแครอท
ระยะแรม 14 ค่ำ (ตรงกับวันที่ 22-28 ของวงโคจรหนึ่งรอบ) ให้กำจัดวัชพืช ลงปุ๋ย คลุมรากต้นไม้ เล็มต้นไม้ และ หยุดพัก
ลองหาอ่านเพิ่มเติมในอินเตอร์เนทนะคะ