บล็อกนี้เขียนและเรียบเรียงเพื่อเป็นวิทยาทานในการนำไปค้นหาการแปรรูปวิธีการกินที่เหมาะสมและการนำไปต่อยอดต่างๆจากสิ่งที่เรามีมากมายในสวนในไร่ของเราหัวบุกป่าหรือเรียกกันว่าบุกคางคกมีความเป็นพิษคือมีความคันเป็นที่ตั้งเลยแต่ด้วยสภาพที่เขาแพร่พันธ์ได้ดีในเขตร้อนชื้นบ้านเราจึงทำให้หัวใหญ่เเข็งแรงและไม่มีสัตว์มารบกวนหัวของเขาเลยเมื่อเราจะนำมากินผมได้ทดลองและรวบรวมไว้ดังนี้คือ
1.การปอกหรือการตัดหัวบุกคางคกทุกส่วนมีความคันสิ่งเดียวที่ต้องหลีกเลี่ยงคือการโดนน้ำห้ามโดนน้ำเด็ดขาดจะเลอะก็เลอะแบบนั้นไป
2.ต้นอ่อนของบุกคางคกที่ยังไม่เป็นใบขนนกสามารถนำมาบปอกเปลือกและนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่างแต่การทำต้องใส่บุกที่ปอกแล้วลงในน้ำกำลังเดือดจะดีที่สุดแล้วรอให้สุกตักใส่ตะแกรงให้เสด็ดน้ำนำไปประกอบอาหารอื่นได้สารพัด
3.การนำส่วนของบุกไปรับประทานตามที่บอกข้างต้นให้ใส่ของที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือทำให้เป็นกลางด้วยเช่นมะขามเปียก/ใบย่านางเป็นต้น
4.คราวนี้มาส่วนหัวบุกคางคกใต้ดินในการจะนำมาประกอบอาหารได้นั้นสิ่งที่เราต้องเตรียมคือน้ำด่าง(น้ำขี้เถ้าหมักทิ้งไว้1คืน)กรองเอาเศษถ่านและสิ่งสกปรกออกตั้งไฟและนำส่วนหัวบุกที่เราฝานบางๆใส่ลงไปต้องฝานบางๆให้สุกทั่วดังจะแสดงในรูปตามลำดับต่อไป
หัวบุกคางคกตัดแต่งให้ดีและเข้าสู่ขั้นตอนการปอกเปลือกออกใส่ถุงมือได้ก็จะดีมาก
ปอกเปลือกและฝานออกเป็นแผ่นบางๆทุกขั้นตอนอย่าโดนน้ำ
ใส่หม้อต้มน้ำในหม้อที่ต้มคือน้ำแช่ขี้เถ้ากรองแล้ว
รอจนเดือดน้ำจะเปลี่ยนสีไปไม่เป็นไรเป็นเรื่องปกติในขั้นตอนนี้ความคันจะค่อยสลายไปจนเดือดทั่ว
เทใส่ตะแกรงตรงขั้นตอนนี้ต้องล้างน้ำเปล่าอีกสัก2ครั้งเพื่อให้ด่างขี้เถ้าและความคันออกให้หมด
เราจะได้แป้งบุกเหนี่ยวๆถึงตรงนี้จะไม่คันแล้วให้เรานำไปประกอบอาหารได้แต่ถ้าโดนอากาศอาจมีการเปลี่ยนสีบ้าง
ใยนขั้นตอนนี้ผู้เขีนยนก็ทดลองนำมาผสมแป้งทดสำเร็จรูปดูว่ามันยังจะมีความคันไหมถ้าใครทำถึงขั้นตอนนี้ก็คงไปต่อยอดอย่างอื่นได้ดีกว่าผู้เขียนครับรับข้อเสนอแนะทางไลน์ได้ppn1972